หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า เรามีประกันอุบัติเหตุกันอยู่แล้วก็น่าจะเพียงพอ ทำไมยังต้องทำประกันการเดินทางด้วย แต่หากลองนึกดู ถ้าเราไปเดินเล่นแถวชิบูย่าแล้วเกิดหกล้ม ขาหัก ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทันที ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ที่เกิดขึ้นเราเตรียมเงินไปเพียงพอไหม ดังนั้น อยากให้ลองสำรวจประกันอุบัติเหตุที่เรามีอยู่ก่อน ซึ่งสิ่งที่เราควรเช็กเบื้องต้นได้แก่
ประกันอุบัติเหตุที่มีอยู่ มีความคุ้มครองที่ต่างประเทศหรือไม่
วงเงินความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุเพียงพอหรือไม่
ความคุ้มครองการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตาหรือทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ
ถ้าประกันอุบัติเหตุที่เรามีอยู่มีความคุ้มครองที่ต่างประเทศและวงเงินความคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้เพียงพอ เราก็อาจมองข้ามประกันการเดินทางไปได้ ทั้งนี้ เราต้องยอมรับในความไม่สะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร เงินที่ต้องสำรองจ่ายไปก่อนจนถึงการกลับมาเคลมกับษริษัทประกันที่ทำ แต่ถ้ามีประกันการเดินทาง เราจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลประสานงานกับทางโรงพยาบาลให้กับเราตลอดเวลาจนถึงส่งตัวกลับมาที่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ประกันการเดินทางยังมีความคุ้มครองอื่นๆ เพิ่มเติม ที่อาจช่วยเราแบ่งเบาค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ เช่น ความคุ้มครองการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะท้องเสีย เป็นไข้ หัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งประกันอุบัติเหตุไม่คุ้มครอง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการส่งตัวกลับมารักษาต่อที่ประเทศไทย ค่าเดินทางของผู้ไปเยี่ยมผู้เอาประกัน การเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศ กระเป๋าสูญหายหรือชำรุด กระเป๋าล่าช้า รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ภายในกระเป๋า การสูญหายของเงิน การสูญหายของหนังสือเดินทาง และเอกสารการเดินทาง เที่ยวบินถูกยกเลิก เที่ยวบินเลื่อนการเดินทาง พลาดการต่อเที่ยว ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ประกันอุบัติเหตุ ไม่ครอบคลุม เป็นต้น