ต่อพรบ รถยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

ผู้ที่มีรถยนต์ล้วนจำเป็นต้องรู้และจำเป็นต้องไปต่อ ภาษีรถยนต์ ของตัวเองทุกปี ซึ่งเรื่อง ภาษีรถยนต์ คุณไม่ควรมองข้ามถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากคุณลืมต่อ ภาษีรถยนต์ ในปีนั้นแล้วละก็ มีหวังคุณอาจจะโดนจ่ายค่าปรับแน่นอน สำหรับใครคนไหนที่กำลังจะไปต่อ ภาษีรถยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง ซึ่งเอกสารที่จำเป็นต้องใช้และไม่ควรลืม คือ

1. สมุดรายการจดทะเบียนรถ หรือ สำเนารายการจดทะเบียนรถ

ซึ่งเอกสารนี้ถือว่าเป็นของสำคัญมาก และในสมุดรายการจดทะเบียนรถจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ของคุณไว้ไม่ว่าจะชื่อเจ้าของรถ รายชื่อผู้ครอบครองรถ ตัวเลขถังของรถยนต์ และเลขเครื่อง

2.หลักฐานการทำ พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุอย่างน้อย 3 เดือน

3. ใบรับรองการตรวจสภาพรถ

ข้อนี้ถ้ารถยนต์ของคุณใช้งานมากกว่า 7 ปี จะต้องได้รับการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถยนต์ก่อนว่ามีสมรรถนะพอที่จะใช้งานบนท้องถนนได้หรือไม่ รถจักยานยนต์ก็เช่นกันถ้ามีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี ก็ต้องได้รับการตรวจเช็ค โดยเราสามารถตรวจสภาพรถได้ที่ กรมขนส่งทางบก หรือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก็ได้ แต่ในกรณีที่รถขาดการต่อ ภาษีรถยนต์ เกิน 1 ปี จะมีค่าปรับย้อนหลังพร้อมค่า ภาษีรถยนต์ หรือรถยนต์มีการดัดแปลงสภาพมาจนไม่ตรงกับที่จดแจ้งไว้ในสมุดคู่มือประจำรถ คุณจำเป็นต้องนำรถไปตรวจที่ กรมขนส่งทางบก เท่านั้น เมื่อผ่านมาตรฐานแล้วทางผู้ตรวจจะออกใบรับรองมาให้

4. เอกสารตรวจรับรองติดตั้งแก๊ส

ในกรณีนี้รถที่เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นแบบแก๊ส (ไม่รวมแบบที่ติดตั้งจากโรงงาน) ไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ CNG จะต้องมีใบรับรองการติดตั้งและตรวจสภาพจากวิศวกรแนบมาด้วย ซึ่ง LPG ตรวจ 1 ครั้ง จะใช้ได้ 5 ปี แต่ถ้า CNG ต้องได้รับการตรวจใหม่ทุกปี

สำหรับใครที่รู้ตัวว่า ภาษีรถยนต์ กำลังจะหมดควรจะรีบไปต่อทันที เพราะไม่เช่นนั้นคุณต้องเสียค่าปรับ ซึ่งค่าปรับจะอยู่ที่ร้อยละ 1% ของค่า ภาษีรถยนต์ ต่อเดือน เช่น ค่า ภาษีรถยนต์ 900 บาท รถยนต์ของคุณขาดภาษี 1 เดือน ค่าปรับในกรณีที่ต่อ ภาษีรถยนต์ ล่าช้าจะอยู่ที่ 9 บาท แต่การต่อ ภาษีรถยนต์ คุณสามารถทำล่วงหน้าได้ 3 เดือนก่อน ภาษีรถยนต์ จะหมดอายุ

ในกรณีหากคุณขาดการต่อพรบ รถยนต์ นานเกิน 3 ปี คุณจะถูกระงับป้ายทะเบียนรถยนต์ และคุณจะได้รับจดหมายจากสำนักงานขนส่งว่าให้นำป้ายทะเบียนรถยนต์มาคืนพร้อมกับใบคู่มือและการบันทึกการระงับป้ายทะเบียนรถยนต์ พร้อมกับชำระค่าปรับและค่า ภาษีรถยนต์ ที่ค้างอยู่ทั้งหมด