เทคนิคการเสริมจมูกในคลินิกศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า มีผู้มารับการปรึกษาและให้บริการเป็นประจำ การเสริมจมูกส่วนใหญ่ทำด้วยวัสดุประเภทซิลิโคน (Silicone) มีลักษณะคล้ายพลาสติกปนยาง เหนียว ยืดหยุ่นได้ดี สามารถเหลาเป็นรูปทรงต่างๆได้ตามต้องการ ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย และมีปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกายน้อยมาก สามารถนำไปทำเป็นลิ้นหัวใจเทียมหรือแผ่นปิดกะโหลกเทียมได้ ผู้ป่วยที่เสริมจมูกด้วยซิลิโคนส่วนมาก ถ้าทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักพบปัญหาหรือโรคแทรกซ้อนน้อยแต่ก็มีผู้ป่วยบางคนที่พบว่าอาจเกิดการแพ้ บวมแดง เป็นบางครั้ง หรือ เสริมแล้วนานไปแลดูไม่เป็นธรรมชาติ เห็นเป็นสัน เป็นขอบของซิลิโคน ในผู้ป่วยบางคนที่ผิวหนังค่อนข้างบางจะมีการรัดตัวของผิวหนังบริเวณจมูก มองดูเห็นเป็นแท่งซิลิโคนอย่างชัดเจน จึงมีผู้คิดค้นหาวัสดุอื่นมาใช้เพื่อลดปัญหาดังกล่าว
การนำเซลล์ไขมันจากตัวคนไข้เองมาเสริมจมูก ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมากเพราะเป็นเนื้อเยื่อของร่างกายตนเอง เซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะไม่มีการไหลเหมือนสารเติมเต็มชนิดอื่น ฉีดแล้วอยู่กับที่ เชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกันกับร่างกายไม่มีปัญหาเรื่องการแพ้, ทะลุหรือเอียง, แผลซ่อนในตำแหน่งที่มองไม่เห็น, เจ็บตัวน้อยกว่า และยังมีความนุ่มนวลที่ดูเป็นธรรมชาติไม่เหมือนสารภายนอกที่ฉีดหรือใส่เข้าไป จากการใช้เซลล์ไขมันเสริมจมูกนั้น สันจมูกโด่งขึ้น และมีความโด่งที่คงที่ หมายถึงโด่งเท่าที่เนื้อเยื่อทำได้ ซึ่งอาจจะไม่โด่งชัดแบบซิลิโคนเพราะไขมันมีความอ่อนนุ่มจะปรับรูปร่าง ตัวไม่ดันเนื้อเยื่อจมูกมากเกินไป จึงไม่มีปัญหาทะลุ ให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าซิลิโคน
การเสริมจมูกด้วยไขมันนั้น ศัลยแพทย์จะต้องดูดไขมันของร่างกายออกมาส่วนหนึ่ง แล้วทำการแยกไขมันบริสุทธิ์และขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะศัลยแพทย์จะนำไขมันไปปั่นรวมในเครื่องคัดแยกแล้ว ถึงจะนำมาฉีดไขมันเสริมจมูกตรงบริเวณสันจมูกและยังฉีดเสริมบริเวณเนื้อชั้นในส่วนกลาง เมื่อฉีดไขมันเสริมจมูกเข้าไปแล้ว ไขมันที่ฉีดนั้นจะยังไม่เป็นไขมันของตำแหน่งนั้นจริงๆ จะต้องรอให้เส้นเลือดฝอยเข้ามาเลี้ยงไขมันจึงจะถือว่าการศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยไขมันประสบความสำเร็จ แต่ถึงแม้การเสริมจมูกด้วยไขมันจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังมีไขมันบางส่วนที่เส้นเลือดฝอยไม่ได้เข้ามาเลี้ยง ไขมันส่วนนั้นก็จะฝ่อและสลายไปเองภายในสัปดาห์แรก